ในซอยสุขุมวิท 34 ย่านทองหล่อ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า มี Residence ที่ต้อนรับแขกทั้งแบบรายวันและรายเดือน ทั้งคนไทยและต่างชาติ เปิดใหม่อีกแห่ง ภายใต้ชื่อ Novotel Suites ครับ
วันนี้เรามารีวิวให้ทราบกันว่าที่นี่เป็นอย่างไรและมีอะไรบ้าง เพราะอีกไม่นาน เมื่อสถานการณ์โควิดบรรเทาลง และมีการเปิดประเทศ ที่นี่ก็จะได้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถแนะนำเพื่อนชาวต่างชาติมาเข้าพัก หรือใครอยากลองมาพักเองเปลี่ยนบรรยากาศก็ทำได้ครับ
โรงแรมอยู่ในซอย สุขุมวิท 34 ซึ่งแขกที่มาใช้บริการ ก็สามารถแจ้งให้รถของโรงแรมมารับส่งได้ครับ
ตัวโรงแรมเป็นตึกสีเทา ตกแต่งด้วยลายไทยประยุกต์ ด้านหน้ามีพระพิฆเนศองค์สีทอง งดงามมากครับ
มีป้ายชื่อบอกให้เห็นชัดเจนตามภาพครับ
รถรับส่งของโรงแรม มี 2 แบบ เป็นรถแบบ 4 ล้อเล็กสมัยก่อนสีเทา
และหากต้องการใช้บริการลีมูซีน ก็มีรถเบนซ์ให้บริการครับ
เข้ามาด้านในจะมีแนวโคมไฟระย้าบนเพดาน และตกแต่งด้วยหินอ่อนขาวแซมด้วยบรอนซ์ที่ดูสมัยใหม่ สบายตา
มีบาร์ด้านหน้า Float Bar กำลังเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการครับ
จากทางเข้าหันมาทางซ้ายจะเป็นเคาท์เตอร์ รีเซปชั่น เพื่อเช็คอิน
ห้องน้ำล็อบบี้ก็ตกแต่งด้วยลายหินอ่อนสีขาวเช่นกัน
จากส่วน Lobby ไปลองชม ห้องพักกันบ้างครับ ที่นี่จะให้บริการ 4 room typeแต่ในรีวิวนี้จะพาชม 2 type คือ Superior กับ Junior Suites ครับ
ตัวโรงแรม มี 9 ชั้น หากเปิดเต็มรูปแบบจะสามารถรองรับแขกได้ถึง 148 ห้องเลยครับ เราไปเริ่มต้นที่ Superior กันก่อน
ขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพัก
ระหว่างทางเดิน จะเห็นภาพปัก ที่เป็นลายไทยร่วมสมัย ประยุกต์จากมาลัยเครื่องแขวน ให้่กลิ่นไอความเรียบง่ายแต่เนี๊ยบแบบญี่ปุ่น และฝีมือศิลปะของคนไทยได้อย่างลงตัว
มาถึงห้อง Superior กันแล้วครับ
แม้แต่ในผนังห้องก็ยังมีลวดลายไทย ไม่หลุดคอนเซป
สีของห้องเป็นโทนเทาและน้ำตาลอ่อน สบายตาน่านอน
กาน้ำชาก็ให้อารมณ์แบบญี่ปุ่น
และก็ไม่ลืมที่จะมีพวงมาลัยตกแต่งครับ
ในห้องจะมีส่วนของ Pantry ที่จะมีที่ล้างมือ และไมโครเวฟในการอุ่นอาหารเล็กๆน้อยๆได้
มินิบาร์ก็มีให้บริการเช่นกัน
ในส่วนของตู้เสื้อผ้าก็มีบริการ Bathrobe และตู้เซฟให้ใช้งาน
ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ครบครัน และฟักบัว Rain shower ด้วยครับ
จากห้อง Superoir มาลองชมห้อง Junior Suites กันบ้างครับ ห้องนี้วาง layout ตามสไตล์ญี่ปุ่นเป็นอย่างดี
เข้ามาในห้อง ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Pantry ยาวล้อไปกับผนัง ซึ่งจะได้พื้นที่ของ Pantry ที่ค่อนข้างกว้างไม่อึดอับ และวางของต่างๆได้มากมาย และตามวิสัยของคนญี่ปุ่นแล้ว เมื่อมาถึงบ้าน อย่างแรกๆที่เค้าจะต้องทำคือการล้างมือนั่นเอง การวาง Pantry ตรงนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก
ขวามือ จะเป็นห้องน้ำครับ ที่มีทั้งแบบฟักบัวและอ่างอาบน้ำ ซึ่งอ่างอาบน้ำนี่ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียวถ้าอาบน้ำธรรมดาทั่วไป แช่อ่าง ก็จะเรียกว่า Ofuro ครับ
อาบน้ำเสร็จเดินมาอีกทางจะเป็นทางไปห้องนั่งเล่นและห้องนอนครับ
ใกล้ๆ Pantry ก็มีที่นั่งเล่น ไว้นั่งพูดคุยรับแขกทานอาหารกันครับ
ซึ่งก็ไม่ลืมที่จะตกแต่งด้วยเครื่องแขวนร่วมสมัย
มาชมห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนจะหลบเข้ามาอีกมุมหนึ่ง เพิ่มความรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ส่วนห้องนอนคล้ายห้อง Superior ครับ ดูนุ่มสบาย ไม่แพ้กัน
และด้วยความที่โรงแรมอยู่ในเมือง ทางโรงแรมจึงเพิ่มพื้นที่โต๊ะทำงาน ข้างๆเตียงนอนด้วยครับ
ติดกันมี Walk-in Closet ที่บริการชุดคลุมเช่นกัน
เริ่มต้นจากสระว่ายน้ำ ที่ตั้งของสระจะเป็นชั้นลอยต้องเดินขึ้นบันไดไป เพราะทางโรงแรมทำตรงสันของสระ ให้เป็นเหมือนน้ำตกกลายๆครับ
ขึ้นมาด้านบนจะเป็นสระว่ายน้ำ
ให้อารมณ์รีสอร์ท พื้นสระเป็นหินๆดูเป็นธรรมชาติเข้ากับแมกไม้โดยรอบ
จากสระ เห็นวิวไกลๆ เป็นโต๊ะอาหารนั่นคือร้าน White Shuffle ครับ
เสียดายวันที่ไป เป็นวันจันทร์ ทางร้านปิดครับ เลยเก็บภาพบรรยากาศให้ชมคร่าวๆ
โดยร้าน White Shuffle นี้ เป็นที่รู้จักในด้านอาหารฝรั่งร่วมสมัยที่มีเสิร์ฟแบบเป็น Set Menu ด้วย ใครมาพักที่นี่ก็สามารถจองห้องแบบรวมอาหารเช้าของร้านได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนชั้นบน เหมาะกับการจัดปาร์ตี้ส่วนตัวครับ
ระหว่างทานอาหาร ใครที่มากันเป็นครอบครัว มีเจ้าตัวน้อย อาจจะให้ไปเล่นในส่วน Kid's Club ได้ครับ ในห้องมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ตัวต่อ วาดรูป หรือเล่นกับพี่ม้า
ที่น่าชื่นชมคือโรงแรม มีจุดล้างมือในทุกๆที่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของแขกที่มาใช้บริการครับ แม้แต่ในห้องนี้
ในด้านสุขภาพ ก็มี Fitness ให้บริการด้วยเช่นกัน มีเครื่องเล่นหลากหลาย
หรือใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากทำงานนอกสถานที่ ก็มี Co-working Space บริการให้แขกครับ
และมาถึงอีกหนึ่งจุดที่ต้องมา นั่นคือห้องออนเซน และซาวน่าครับ ซึ่งเปิดให้บริการแบบ Private ต้องจองเวลา
ห้องออนเซนขนาดกระทัดรัด แต่มีอะไรให้ทำหลากหลาย มาได้ทั้งครอบครัวเลยครับ ด้านหน้าจะมีต้นไม้อยู่ตรงกลาง ให้อารมณ์สวนเซน
เดินลงมาหน้าห้อง จะเห็นป้ายอธิบายกฎการเข้าใช้
ก่อนเข้าแช่ออนเซน ก็เปลี่ยนชุด ในห้องแต่งตัว
ก่อนจะแช่ตัวหรือซาวน่า ก็อาบน้ำล้างตัวซักเล็กน้อย เป็นที่อาบแบบโรงอาบน้ำหรืออนเซน ญี่ปุ่นเลย ต้องขออภัยที่ภาพจะเบลอๆ เพราะมีไอน้ำเยอะครับ
ห้องซาวน่า
มาดูบ่อออนเซนกันบ้างครับ จะมีบ่อร้อนและเย็น บ่อร้อนจะใส่ผงออนเซน Gero เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนแช่บ่อน้ำแร่ Gero จึงออกมาเป็นสีเขียวสวย เหมือนน้ำทะเลมัลดีฟส์ :D มั่นใจได้ว่าของที่ทางโรงแรมใช้ เป็นผงออนเซนจาก GOSHU ที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญผงออนเซนจากญี่ปุ่นแน่นอนครับ
ระหว่างแช่ก็ชมทิวทัศน์สวนเซนจากต้นไม้ที่เห็นด้านหน้า
ใครแช่แบบร้อนๆแล้วอยากได้อะไรที่ปลุกร่างกายให้ตื่น ก็มีบ่อเย็นเจี๊ยบให้แช่ด้วยเช่นกันครับ บ่อจะขนาดเล็ก
ตบท้ายเมื่อ แขกใช้บริการออนเซนเรียบร้อยแล้ว ทางโรงแรมจะเสิร์ฟชาและคุกกี้ให้ทานตบท้ายด้วย
เป็นอันจบเรียบร้อย สำหรับรีวิว Novotel Suites สุขุมวิท 34 ครับ โรงแรมที่ผสมผสาน กลิ่นไอญี่ปุ่นและความเป็นไทยไว้ได้อย่างลงตัว เหมาะกับคนที่อยากหาที่ Staycation หรือแนะนำให้เพื่อนต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นครับ
