divana divine spa : Hidden Sanctuary ในซอยทองหล่อ 17

divana เป็นหนึ่งในสปาแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่ชาวต่างชาตินะครับ ด้วยแนวคิดในการนำบ้านโบราณมาทำเป็นสปา ทำให้สปาแต่ละสาขาของที่นี่ดูมีสเน่ห์ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ divana ซึ่งบ้านโบราณแต่ละหลัง ในปัจจุบันนี้หาได้ยากมาก  ดังนั้นจึงเป็นเหมือน Hidden Sanctuary อีกด้วย อีกหนึ่งในความน่าสนใจของทาง divana ที่ทราบมา คือการนำเอารูปแบบการบริการที่มีลำดับขั้นที่ดีจากการบริการบนเครื่องบิน มาประยุกต์ใช้กับการบริการสปาของที่นี่ ทำให้เมื่อมาใช้บริการ เราจะสามารถรับรู้ได้ถึงการบริการแบบมีขั้นตอนและมีความตั้งใจครับ

สำหรับสาขาที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการสปาของ divana จะเป็นสาขา ทองหล่อ ซอย 17 ครับ สำหรับผู้มาใช้บริการ สามารถมารถไฟฟ้าก็ได้แล้วนัดหมายเวลาให้รถตุ๊กตุ๊กๆ ของ divana มารับได้ครับ

มาถึงรถจะมีคูลเลอร์บรรจุผ้าเย็นและน้ำเย็นๆ ให้แขกได้ทานครับ เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจที่น่าประทับใจ

รถวิ่งเข้าไปในซอยทองหล่อ

น้ำของ divana

จากปากซอยทองหล่อ 17 รถก็ผ่านโครงการ The common ไปอีกหน่อยก็มาถึง divana ครับ เป็นบ้านโบราณอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นดี

เข้าไปด้านในเป็นส่วนรับรองแขก

จะมีเครื่องดื่มสูตรเฉพาะมารับรอง พร้อมผ้าเย็น เป็นชาข้าวบาเล่ย์ใบเตยครับ

 

จากนั้นหากนวดน้ำมันหรือสครับ ก็จะมีให้เลือกเช่นกันว่าชอบแบบไหน

โดยมีดังนี้

งาดำ : ช่วยให้ผิวชุ่มชื่่น

ชาเขียว : ช่วยดีทอกซ์

โอลีฟ : เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

เบอร์รี่ : ทำให้ผิวกระจ่างใส

กุหลาบ : เป็น anti-aging

จากนั้นก็จะมีน้ำมันให้เลือก

เกรปฟรุต : ทำให้สดชื่น

กุหลาบ : aniti aging

มะลิ : = ช่วยคลายเครียด

ตะไคร้ : ช่วยดีทอกซ์

เมื่อเลือกแล้วพนักงานก็จะไปเดรียมห้องครับ ระหว่างนี้เราสามารถลองผลิตภัณฑ์อื่นๆของ divana ด้วยเช่่นกัน เช่น Hand Cream

ระหว่างรอไปดูห้องรับรอง (ที่ปกติไว้ให้แขกนั่งพักหลังทำสปาเสร็จ) กันก่อนครับ ห้องจพอยู่ริมสวนชมต้นไม้ได้

หากไม่ได้ทำสปาก็สามารถมารอผู้ที่ทำสปาได้ในห้องนี้ครับ พนักงานก็จะนำของว่างมาเสิร์ฟ เป็นกล้วยและสับปะรดราดน้่ำผึ้ง เครื่องดื่มเป็นน้ำตะไคร้ร้อน 

บรรยากาศเมื่อมองจากห้องรับรอง

ที่นี่มาชมในส่วนห้องทำสปากันบ้างครับ

ห้องน้ำก็จะอยู่ในส่วนนี้เช่นกัน

เก๋ตรงที่อ่่างล้างมือ มีดอกไม้วางด้วยดูเป็นธรรมชาติดี

เดินเข้าไปส่วนของห้องทำสปาครับ

ในสปาจะมีไฟสลัวลงหน่อย เพื่อให้แขกที่มาทำสามารถพักผ่อนในระหว่างทำสปาได้อีกด้วย

สำหรับเรื่องขั้นตอนการทำ ไม่สามารถรีวิวได้ครับเนื่องจากไม่ได้เป็นคนรับบริการเอง แต่ในส่วนของบรรยากาศและบริการโดยรวม ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งในการมาทำสปา หรือพาเพื่อนต่างชาติมาลองทำสปาแบบไทยๆครับ

101 Third Place ใน Whizdom 101 แหล่ง Hang Out แห่งใหม่ เปิดแล้วมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

ในย่านปุณณวิถี หรือแถวสุขุมวิท 64 ซึ่งอยู่ใกล้ๆออฟฟิศของเรา ก็มีโครงการที่พักอาศัยและ Mix use ที่ถือว่าเป็นโครงการยักษ์โครงการหนึ่งตั้งอยู่ คือ ของ Whizdom 101 ซึ่งเป็น 1 ในโครงการที่ได้รับความสนใจ โดยแมคโนเลียครับ ส่วนของโครงการ Mix use นี้ จะตั้งชื่อว่า 101 Third Place ซึ่งตอนนี้เปิดให้ได้ใช้บริการบางส่วนแล้ว ซึ่งมีอะไรให้ทำบ้างในโครงการนี้ เรามาชมกันเพื่อเตรียมตัวก่อนไปจริงครับ ข้อมูลที่มาอัพเดทกันเป็นของวันที่ 19/1/2562 ครับ

โครงการจะอยู่ติดกับโครงการปิยรมย์เดิมครับ สามารเดินทางด้วยรถยนต์ หรือลงรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถีแล้วเดินตามทาง Sky walk ได้เลยสะดวกมากๆ

ชั้นล่าง จะมีร้านอาหารดังต่อไปนี้

เริ่มด้วยกับข้าวกับปลา อาหารไทยสมัยใหม่ 

ร้านอาหารสำหรับพบปะกะเพื่อนฝูง The Ale

มีร้านชานมไข่มุก และร้านขนมญี่ปุ่น Kyo Roll en ครับ (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ใครชอบความแซ่บ ก็มี แซ่บอีลี่มาเปิดนะครับ (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ใครชอบบอร์ดเกม เล่นไปกินไป ต้องไม่พลาดร้านนี้ Red Fox

ร้านอาหารจีน ก็มีครับ Jin Long

ใครไม่มีเวลา อยากทาน Fast Food มี KFC เช่นกัน

นอกจากร้านอาหารก็มีร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ Boots

มี่ Boots ก็ต้องมี Watson ครับ B2S ก็มีเช่นกัน

อีกร้านที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน Starbucks (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ใครอยากสะดวกซื้อ 7 eleven ก็มีจ้า (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ในส่วนร้านญี่ปุ่น แนวซูชิ ก็มี Hoshi ครับ (ยังไม่เปิดให้บริการ)

เย็นตาโฟอาจารย์ มัลลิการ์  (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ถ้าอยากทานแบบรสมือคุณแม่ชาวญี่ปุ่น มีโอโตยะ

ร้านขนม Yellow Spoon ครับ

ถ้าอยากทานแบบหม้อไฟ มี Sloth Sukiyaki โลโก้น่ารักดี (ยังไม่เปิดให้บริการ)

นอกจากร้านอาหารแล้ว ก็ยังมีส่วนอาหารแบบซื้อกลับบ้านด้วย เรียกว่าโซน Grab and Go 

Gindaco ขนมครกญี่ปุ่นครับ (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ในโซนนี้มี MK Suki ด้วยนะครับ ลืมถ่ายภาพมา โปรเปิดร้านคือ แถมหมอนเป็ด เมื่อทานครบ 1,000 ด้วยน่ารักดี

ราเมงก็มี Ippudo ครับ

ร้านหมวก

อีฟโรเชอร์ครับ

จากชั้น 1 ไปต่อกันชั้น 2 ครับ ตัวอาคารจะค่อนข้างโปร่ง รับแสงธรรมชาติเยอะ อารมณ์เหมือน Central Eastville เลย

อีกร้านกับราเมง Chabuton

และตามด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นอีกมากมาย ร้านข้าวหน้าหรือด่ง Yoshinoya

คัตซึยะข้าวหน้าหมูทอด เทนยะ เทมปูระกรอบๆ

ร้านยาและเครื่องสำอางค์ มัตซึคิโยะ ก็มาครับ

ร้านชา Monsoon

ร้านเครป O-li-no ร้านเครปที่มีให้เลือกมากมาย มีเซนจูรี่ อ่อนนุชด้วยเช่นกัน

ร้านเครื่องนอน

ร้าน Minigood เป็นสินค้าจากสวีเดน ให้อารมณ์เหมือน Ikea + Daiso น่าสนใจดีครับ

มาชั้น 3 กันต่อ ซึ่งน่าจะสูงสุดที่ขึ้นได้ตอนนี้

ภาพอาจเห็นไม่ชัด แต่หากใครชอบออกกำลังกาย มี Virgin มาเปิดครับ 1 ใน fitness ที่มีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย (ยังไม่เปิดให้บริการ)

มีธนาคารเช่นกัน UOB / SCB 

อาหารเวียดนาม เวียฮาลอง

จิบไวน์สังสรรค์แบบชิคๆ กันที่ Wine Connection (ยังไม่เปิดให้บริการ)

แต่ถ้าอยากเน้นแนวสนุกสนานเฮฮาแบบญี่ปุ่น ต้อเงซาการิกิ (ยังไม่เปิดให้บริการ)

มีธนาคารธนชาติ และ Apex

Ginger Farm Kitchen (ยังไม่เปิดให้บริการ)

ในชั้นนี้ออกมาด้านนอกชมวิวโดยรอบ กัับสวนลอยได้ครับ ต่อไปน่าจะเป็นลานจัดกิจกรรมต่างๆได้เป็นอย่างดี่

นอกจากนี้ยังมีส่วน True Digital Park และ Tops Super Market ด้วยนะครับ ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายภาพมา

สำหรับรีวิว ของ  101 Third Place ใน Whizdom 101 ก็มีประมาณนี้่ครับ ถือว่าเป็น Community Mall ที่ตอบโจทย์ค่อนข้างครบ ด้านกิจกรรมต่างๆของคนเมืองได้เป็นอย่างดี แล้วเมื่อโครงการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ เราจะมาอัพเดทกันอีกครั้งครับ