วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ฮอกไกโด อาณาจักรแห่งอาหาร : Hokkaido, The kingdom of food (1)

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจอย่างยิ่งในหมู่คนไทย และยิ่งตอนนี้สามารถไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ยิ่งทำให้หลายคนสนใจและอยากไปประเทศนี้กันมากขึ้น เราจึงมาแชร์รีวิวให้ได้อ่านกันเป็นไอเดียครับ สำหรับรีวิวนี้จะพูดถึงภูมิภาคฮอกไกโด ซึ่ง เปรียบเสมือนอารณาจักรแห่งอาหาร ที่มีวัตถุดิบชั้นเลิศไม่ว่าจะเป็นอาหารหวานหรือคาว แค่มากินอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว แต่ภูมิภาคนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากหมายครับ

pasha

สำหรับการเดินทางตอนนี้การบินไทยมีบินตรงไปฮอกไกโดแล้ว โดยจะไปลงที่สนามบิน New Chitose ครับ พอพูดถึงชื่อสนามบินแล้วก็อยากเล่าเกล็ดความรู้ต่างๆที่ได้ทราบมาเกี่ยวกับญี่ปุ่นให้ได้ทราบกันดังนี้ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจประเทศเค้ามากขึ้น และเกิดอรรถรสในการเที่ยวชมครับ

ญี่ปุ่นเรียกตัวเองว่า นิปปอน  (Nippon) แต่ทำไมคนไทยไม่เรียกว่าประเทศนิปปอน แต่เรียกญี่ปุ่น  สาเหตุคือ เราเรียกตามชาวจีนครับ  ชาวจีนเรียกชาวญี่ปุ่นว่า "เยียดเปิ่น" และเราก็แผลงเสียงมาจนเป็น ญี่ปุ่น คล้ายๆฝรั่งได้ยินเรา เรียก "บางกอก" แต่ฟังเป็น Bangkok

สำหรับที่มาของชาวญี่ปุ่นนั้น เดิมเชื่อกันว่า เป็นชาวจีน ระดับขุนนางที่มีความรู้สูง ในรัชสมัย จิ๋นซี ฮ่องเต้ ได้รับพระราชโองการให้ไปค้นหายาอายุวัฒนะ  ซึ่งขุนนางเหล่านี้มีความรู้มากพอที่จะทราบว่ายาแบบนั้นไม่มีอยู่จรืง แต่ก็ต้องปฎิบัติตามรับสั่ง จึงล่องเรือมาจนถึงเกาะญี่ปุ่น  พอมาถึงก็เลยตั้งรกรากและไม่กลับจีนอีก เพราะกลับไปก็โดนประหาร

กลับมาทางฮอกไกโด  เรามาลงสนามบิน New Chitose = ชิโตเซะ  คำนี้ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นแท้ๆ  แต่มาจากคำภาษาไอนุครับ เพราะชาวไอนุเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในฮอกไกโดมาแต่แรกแล้ว  ปัจจุบันก็ยังใช้คำเหล่านี้มาจนถึงปัจจุบัน  โดยพบเห็นได้จากชื่อเมือง เช่น โทยะ โอตารุ ชิโตเซะ ซับโปโร

pasha

พอออกจากศุลกากร โดราเอมอนก็จะวิ่งมาต้อนรับครับ

pasha

เดินออกมาหน่อยจะเจอชุดโบราณค้ลายๆ กิโมโน และลวดลายแปลกๆ

pasha

ประตูก็มีลวดลายของชาวไอนุเช่นกัน

จากที่เราเห็นว่าลวดลายและศิลปะของชาวไอนุดังภาพ  สถานที่ๆเราควรจะไปที่แรก ก็ควรจะเป็น หมู่บ้านชาวไอนุครับ เพื่อจะได้ทราบเรื่องราวและวิถีชีวิตของชนพื้นเมืองฮอกไกโดนี้ให้มากขึ้น.....

pasha

ปัจจุบันชาวไอนุ มีประมาณ 3-4 หมื่นคนครับ วิถีชีวิตพวกเขาก็ไม่ต่างกับคนญี่ปุ่นปกติ จึงเหลือเพียงหมู่บ้านจำลองให้ได้เข้าไปเรียนรู้

pasha

พอเข้าไปก็จะพบรูปปั้นหัวหน้าเผ่าขนาดใหญ่ให้ถ่ายภาพ


ตั้งอยู่ริมน้ำลมดี

pasha

pasha

สภาพกระท่อมชาวไอนุครับ หลังคาคล้ายหลังคามุงจากเหมือนบ้านเรา

pasha

ช่วงที่ไปใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว ใบเมเปิ้ลจะเห็นชัดเจนสุดครับ  ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี  เดิมเป็นเดือนตุลาคม แต่เนื่องจากภาวะโลกร้อน ทำให้เริ่มเขยิบมาเดือนพฤศจิกายนแล้วครับ

pasha

มีบ้านให้เดินเข้าไปดูหลายหลัง แต่ละหลังจะมีคนแต่งตัวแบบชาวไอนุและดำเนินชีวิตแบบชาวไอนุสมัยก่อน เช่น ทอผ้า


ข้างๆจะมีแบบพิพิธภัณฑ์ด้วยจะทราบวิถีชีวิตชาวไอนุแบบละเอียดเลย

pasha

ชาวไอนุ จะล่าปลาแซลมอนในหน้าร้อนแล้วควักเครื่องในออก ทาเกลือและนำไปตากบนหลังคา พวกเขามักจุดไฟในบ้านทั้งปี พอจุดไฟทั้งปีเขม่าก็ปกคลุมไปรอบๆตัวบ้าน เป็นการรมควันป้องกันแมลงไปในตัว ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ดีครับ

pasha

สำหรับปลาแซลมอน ภาษาไอนุ เรียก คามุยชาบุ แปลว่า ปลาแห่งเทพเจ้า ครับ

pasha

ภาพผู้หญิงไอนุครับ ชาวไอนุเชื่อว่าผู้หญิงจะสวยนั้นต้องสัก โดยสักบริเวณปาก พอรอยสักเริ่มแห้งก็จะสักซ้ำไปเรื่อย ขยายพื้นที่สักไปด้วย มักสักรอบๆปาก

pasha

สุนัขพื้นเมือง ของชาวไอนุ ขนสีขาว ฟูๆ

pasha

ระหว่างทางจะเห็นทะเลครับ ซึ่งจริงๆแล้วคือมหาสมุทรแปซิฟิก


แวะทานอาหารร้านนี้ เป็นแนวเทอริยากิครับ ทำร้านได้น่าสนใจมาก  นำเอาสัตว์ที่มีชื่อในภูมิภาคนี้มาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ปูทาราบะ ปลาแซลมอน และหมีกริซลี


ขอจบตอน 1 แต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ และจะมารีวิวเพิ่มเติมครับ :)
























วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Snapper New Zealand, Fish and Chips : ร้านฟิชแอนด์ชิฟที่อร่อยและมีปลาให้เลือกหลากหลาย

ถ้าพูดถึงฟิชแอนชิพ หลายคนคงนึกถึงสไตล์อังกฤษ เพราะเป็นอาหารประจำชาติของที่นั่น  และคงมีหลายคนที่ชอบอาหารชนิดนี้ แม้ว่ามันจะไม่ได้ซํบซ้อน เพราะแค่ปลาชุบแป้งทอด  ถึงแม้จะเป็นแค่ปลาชุบแป้งทอด แต่มันก็ยากที่จะหาร้านที่เนื้อปลากับแป้งที่ทอดกรอบๆนั้นจะเข้ากันได้อย่างลงตัว  โพสนี้ขอแนะนำร้าน Fish and Chips อีกร้านที่น่าสนใจ และมีปลาให้เลือกหลากหลาย

ร้านนี้คือ Snapper New Zealand ครับ

Pasha lifestyle

เข้ามาในร้าน ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีกลิ่นไอทะล ภาพปลาเต็มไปหมด แต่ก็ดูหรูหราดีครับ

Pasha Lifestyle

คอมพลีเมนท์จากทางร้าน เป็นขนมปังปาเต้ และมะกอกครับ เรียกน้ำย่อยได้ดี

Pasha Life style

ในร้านจะบอกชื่อพันธุ์ปลาที่มีในนิวซีแลนด์ และที่นำมาเป็นวัตถุดิบให้ได้เลือกรับประทานครับ ส่วนใหญ่เป็นปลาทะเลน้ำลึกนะ

Pasha Lifestyle

น้ำส้มสายชู ที่หลายคนชอบทานคู่กับปลา

pasha lifestyle

อาหารทานเล่น สำหรับคนชอบของทอดๆคงไม่พ้น Calamari หรือปลาหมึกทอดครับ ทำออกมาได้ดีกรอบนอกนุ่มใน บีบมะนาวด้วยช่วยตัดคาวและเลี่ยนครับ


สำหรับปลาทอด มีให้เลือกหลายชนิดมากๆ ต้องลองถามพนักงานให้เค้าแนะนำดูว่าชอบแบบไหนอย่างไร เป็นปลานำเข้าจากนิวซีแลนด์เลย เราจะไม่ค่อยได้ทานกันครับ ส่วนตัวแป้งเลือกได้สองแบบคือชุบเกล็ดขนมปังกับ battered เป็นแป้งคล้ายๆชุบโกกิครับ

pasha lifestyle

อันนี้เป็น Snapper ชุบเกล็ดขนมปังครับ ทานง่าย ไม่ค่อยคาว

pasha lifestyle

อันนี้จำชนิดปลาไม่ได้ เนื้อไม่แน่นมาก เป็นแบบ battered

pasha lifestyle

อันนี่้น่าจะ Blue Cod ถ้าผิดขออภัย เนื้อแน่น  มีกลิ่นเฉพาะ บางคนอาจจะว่าคาวครับ

pasha lifestyle

ชิพที่ทานคู่กับปลา ไม่รวมมาในจานนะครับต้องสั่งแยก  มีให้เลือกสองแบบ เป็นเฟรนช์ฟรายด์ และฟริช ฟิรชจะชิ้นใหญ่แบบในภาพ กินแล้วได้อารมณ์กว่าเฟรนช์ฟรายด์มาก ห้อด้วยกระดาษขาว รองด้วยหนังสือพิมพ์ดูอาร์ตไปอีกแบบ

รสชาติ

ด้วยวัตถุดิบที่แปลกใหม่และไม่ค่อยได้มีโอกาสหาทานได้มากนัก จึงน่าสนใจและน่าลองมาก รสชาติโดยรวมถือว่าทำได้ดีสำหรับ Fish and Chips ครับ มีปลาให้เลือกหลากหลายดี ทำให้ลองได้หลายหน ถ้าอยากลองอะไรใหม่ๆ ก็เป็น้ร้านที่น่าสนใจมากครับ :)

ราคา  

ประมาณ ท่านละ 500 บาท

การเดินทาง

แนะนำให้นั่งรถไฟฟ้ามาดีกว่า เนื่องจากบริเวณร้านไม่ค่อยมีที่จอด เป็นซอยแคบๆ  หากอยากนำรถมาจริงๆ อาจต้องจอดที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ซึ่งอยู่ตรงข้าม

สถานีที่ต้องลงคือ นานา  ลงตรงฝั่งที่มีร้านขายอาหารมังสวิรัตของอินเดียครับ

เมื่อลงมาให้เข้าซอย สุขุมวิท 11 เดินตรงมาเรื่อยๆผ่านวินมอเตอร์ไซค์ แถวๆโรงแรมแอมบาสเดอร์ คอยดูตรงซ้ายมือจะมีป้ายหน้าร้าน และเลี้ยวซ้ายเข้าไปก็จะเจอร้านครับ