กินซูชิให้อร่อย ต้องนั่งเคาท์เตอร์ดูเชฟปั้น @ Miyatake, Central World

สำหรับการทานซูชิ ถ้าอยากให้ได้อารมณ์จริงๆ เราก็ควรจะนั่งเคาท์เตอร์ หรือซึเคบะและดูเชฟปั้นให้เราทานนะครับ เราจะได้เห็นขั้นตอนต่างๆในการทำ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมวัตถุดิบ การแร่เนื้อปลา และการปั้นข้าว ดูแล้วเหมือนการแสดงอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ดื่มด่ำกับซูชิได้มากขึ้น

Miyatake เป็นอีกร้านหนึ่งที่เนื้อปลาสคครับ เนื่องจากส่งตรงด้วยเครื่องบินจากการบินไทยเลย (ตามใบรายละเอียดบนโต๊ะ) ซูชิที่ขายนั้นก็มีทั้งแบบคำและแบบเซทครับ 

สำหรับรายละเอียด ไว้จะมาแชร์ต่อนะครับ :)

Harrods Tearoom @ Siam Paragon ดื่มชา Afternoon Tea แก้คิดถึงแฮรอท ได้แล้วในกรุงเทพฯ

ถ้าพูดถึงการทานชายามบ่ายใครๆก็คงนึกถึงประเทศอังกฤษนะครับ ถ้าพูดถึงอังกฤษ หลายคนก็ต้องรู้จัก Harrods นะครับ หายคนอาจจะเคยใช้กระเป๋าของที่นี่ ตอนนี้ Harrods มาเปิด Tearoom ในประเทศไทยแล้วที่สยามพารากอน ใครที่คิดถึง Harrods ก็ลองแวะเวียนมาดื่มชาในบรรยากาศของแฮรอทกัน

ด้านหน้ามีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ยืนต้อนรับครับ

เมนูอาหาร เป็นหนังสีเขียว สี Theme ของ Harrods ครับ

ลองสั่งอาหารมาทาน ไม่เอาแบบหนักมาก เพื่อจะได้ลอง High Tea ไหวครับ อย่างแรกคือ ซุปกุ้ง (Lobster Bisque) ใส่มาในถ้วยซุปทรงยุโรป แบบบูรณะกะตะ วางบนถาดไม้ Stamp logo Harrods

สำหรับรสชาติของซุปนั้นอร่อยไม่แพ้หลายๆร้านเลยครับ เสียตรงที่กุ้งมันเละไปนิดนึง แต่โดยรวมแล้วถือว่าอร่อยเลย

จบ Appitiser มีเวลาชมบรรยากาศในร้านซักครู่

สำหรับอาหาร ถ้าพูดถึงอังกฤษก็ต้อง Fish and Chips ครับเลยสั่งมา 1 ที่ และ Scampi อีก 1 ที่่ ทอดได้กรอบดีมากทั้งกุ้งและปลา ปลาไม่ได้มาเป็นชิ้นใหญ่ แต่เป็นชิ้นเล็กๆ ใช้ส้อมมีดคงไม่ถนัด อาจจะต้องจิ้มเอาแทน

จบอาหารหนักไปแล้ว ก็มาทานชากันครับ สั่งชุดพิเศษสำหรับช่วง Christmas ของทางร้าน ซึ่งจะแกต่างจากชุดปกตินิดหน่อย คือขนม สกอร์นมีหลายรส  ได้ชา 2 กา เลือกได้ เลยเลือก Earl's Gray และชากลิ่นกุหลาบที่หอมอ่อนๆ ในชุดมี cupcake Red Velvet, Panna Cotta, Scorn, Macaroon, Wrap, Cookies ชิ้นเล็กน่ารัก รสชาติกำลังดี

ตอนนี้ร้านชาหลายๆร้านในไทยมี Clotted Cream ให้ทากับ Scorn แล้ว ที่นี่ก็เช่นกันครับ และหากทานไม่หมดก็กลับบ้านได้ กล่องน่ารักดี :)

สรุป เป็นร้านชาที่ถือว่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับร้าน Afternoon Tea  ระดับเดียวกัน อาหารอื่นๆนอกจากชา ก็ถือว่าทำได้ดี สามารถทานมื้อหลักและชาได้ครับ 

การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้ามาสถานีสยาม เข้ามาสยามพารากอน ชั้นล่าง บริเวณที่มีบ่อน้ำครับ

SUPANNIGA EATING ROOM ห้องทานอาหารสุพรรณิการ์ อีกหนึ่งความเป็นไทยที่น่าลิ้มลอง

ครั้งนี้มารีวิวร้านอาหารไทย ย่านทองหล่อ ที่เหมาะกับวันพักผ่อนสบายๆกันครับ ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทย แต่ตกแต่งแบบแนวร่วมสมัยครับ ชื่อของร้านคือ SUPANNIGA Eating Room ชื่อไทยเท่มาก "ห้องทานอาหารสุพรรณืการ์" ไม่ค่อยเห็นร้านอาหาร เรียกตัวเองว่า ห้องทานอาหารเลย  

ร้านตั้งอยู่ริมถนนระหว่าง ทองหล่อซอย 6 และ 8 ครับ ร้านขนาดพไม่ใหญ่ ป้ายเล็กๆ ต้องอาศัยมองหาธนาคารกรุงเทพครับ และใกล้ๆตึก Eight ทองหล่อ

ป้ายหน้าร้านครับ

การตกแต่ง ดูมืดขรึม แต่ดูผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวดีครับ 

ห้องน้ำ แนว Vintage ดี

จาน แบบเครื่องลายคราม ได้อารมณ์ในการทานอาหารไทยครับ

เครื่องดื่มมีหลากหลาย ทั้งน้ำผลไม้ คอกเทล มอกเทล อันนี้เป็นน้ำสับปะรด

มาเริ่มต้นกับของทานเล่นกันก่อน นั่นคือ ม้าฮ้อ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้จักและลืมไปแล้ว เป็นอาหารที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน ม้าฮ้อที่นี่ก็เป็นการดัดแปลงจากของเดิมเล็กน้อยครับ ปกติมักนิยมใช้สับปะรด แต่ที่นี่จะเป็นส้มไม่มีเมล็ด รสชาติดีครับ

ยำปลาสลิดกรอบ ก็โอเคนะ

ข้าวตังกับน้ำพริกเผา

หมูชะมวง อีกหนึ่งเมนูที่หาทานได้ยาก ต้นตำรับมาจากเมืองจันทบุรีครับ เป็นหมูที่นำใบชะมวงมาเป็นเครื่องปรุง ดูภายนอกคิดว่าจะเผ็ด แต่พอทานจะพบว่ารสจะออกหวานนิดๆครับ

กระหล่ำปลีทอดน้ำปลา อันนี้อร่อยดีครับทานง่าย

แกงส้มชะอมทอด

เนื้อย่าง และข้าวเหนียวย่าง 

ยำถั่วพลู

เห็ดย่างพริกหวาน รสออกไปทางเปรี้ยวหวานนะ

ไม่ลืมที่จะสั่งอาหารที่คู่กับครัวไทยมาช้านาน "ไข่เจียว" อันนี้ไข่เจียวกุ้งครับ คงไม่ต้องบอกว่าไข่เจียวอร่อยเพียงใด

พานาคอตต้าชาไทย แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร มีครีมให้ราดด้วย อร่อยมาก

กล่าวโดยสรุป ร้านนี้อาจจะไม่ถึงกับไทยดั้งเดิม 100% แต่ก็มีความเป็นไทยมากพอสมควร เหมาะมาทานเป็นครอบครัว หรือพาเพื่อนชาวต่างชาติมาลิ้มลองอาหารไทยครับ :)

Groove @ Central World แหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังจากต่างประเทศแห่งใหม่กลางเมือง : ร้านอาหารอิตาเลียน Cicchetti by San Carlo

ใครที่กำลังหาร้านอาหารใหม่ๆเพื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆและครอบครัว  The Groove @ Central World เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะครับ เพราะรวบรวมร้านอาหารดังๆจากต่างประเทศไว้หลายร้านเลย แต่ตอนนี้ยังเปิดไม่ครบแต่ก็จะทยอยเปิดครับ

สำหรับร้านที่แนะนำวันนี้คือ  Cicchetti ครับ เป็นร้านอาหารในเครือ San Carlo ซึ่งมีหลายสาขาในเมืองต่างๆของอังกฤษ เช่น เบอร์มิงแฮม และ แมนเซสเตอร์ เป็นต้น ร้านตกแต่งแนวโทนสีเหลืองทอง ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความโมเดิร์นนั่งสบาย ไม่เป็นทางการมากนัก เหมาะกับการใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อน หรือครอบครัวครับ

เมนูในร้านก็จะมี Special เมนูในโอกาสพิเศษด้วยครับ

สำหรับคอนเซปอาหาร จะเป็นอาหารอิตาเลียน ที่ปริมาณต่อจานไม่มากนัก เพื่อจะได้สั่งมาหลายจานและแบ่งปันกันรับประทานครับ อาหารที่ได้ลองสั่งมีดังนี้

ซุปเห็ดพอซซินี เป็นครีมเห็ดปั่น อมเปรี้ยวเล็กน้อย มีเห็ดออเรนจิโรยหน้า (รึเปล่า) อร่อยดีครับ

อีกชนิดที่ขาดไม่ได้ คือ Minestrone Soup มินิสโตรเน่ซุป (สมัยก่อนอ่านไทล์สโตน ฮ่าๆ) เป็นซุปผักที่รสชาติเข้มข้นดี

มาถึงเมนคอร์สกันบ้างนะครับ : สปาเกตตี้ลอบสเตอร์ เป็นเมนูพิเศษ เส้นเหนียวนุ่มไม่เละ มะเขือเทศเป็นลูกๆ ลอบสเตอร์ขนาดครึ่งตัว รสชาติเข้มข้น ลอบสเตอร์เนื้อแน่นครับ

อันนี้จำชื่อไม่ได้ เป็นชื่อแบบอิตาเลียน แต่เป็นเมนูที่ทาง Staff แนะนำเป็นสปาเกตตี้ผัดกับตับ รสเข้มข้นมาก เส้นเหนียวนุ่ม คนชอบทานตับน่าลองครับ

จานปลาเป็นปลา Cod ที่ผิวหน้าเป็นสีน้ำตาล คลุกด้วยเครื่องแกงคล้ายแกงกะหรี่ ความมันของปลาถูกตัดความเลี่ยนจากความเผ็ดของแกง จึงกินได้ไม่เบื่อครับ

อิ่มแล้วก็ทานของหวานครับ มีให้เลือกมากมาย แต่เอาแบบเบาๆครับ

ไอศกรีมมะนาว + มิ้นท์ รสชาติมะนาวข่มรสมิ้นท์ไปเกือบหมด แต่ถ้าใครชอบเปรี้ยวสะใจต้องลอง

อีกซักอย่าง ทิรามิซุ นุ่มกำลังดี ทานเพลินๆครับ

จบแล้วสำหรับ Review ราคาถือว่าไม่แพงมากสำหรับร้านอาหารระดับนี้นะครับ

รสชาติ : คุ้มค่าที่จะลอง

การเดินทาง : รสไฟฟ้า ลงสถานีสยามและเดินมาทาง Sky walk ครับ

สำหรับร้านต่อไปที่น่าสนใจ คือ โฟชอง คาเฟ่แมกซิม และ Wabi Sabi จะเป็นอย่างงไรบ้างนั้น ไว้จะมาแชร์นะครับ