รีวิวสำหรับคนรัก Lobster : Red Lobster, Dubai Mall และ Burger & Lobster, Mayfair, London

ช่วงนี้ ยังรีวิวอยู่ในดูไบก่อนนะครับ ดูไบเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลจากยุโรปมากพอสมควร โดยเฉพาะอังกฤษ จะเห็นได้จาก shop brand ต่างๆที่อังกฤษมีก็จะเปิดสาขาที่ดูไบด้วย  ไว้จะกล่าวถึงในรีวิวต่อๆไป  วันนี้มารีวิวร้านอาหารกันก่อนครับ รีวิวนี้สำหรับคนที่ชอบทาน lobster ครับ ตัวอาจจะเล็กกว่ากุ้งมังกรบ้านเรา แต่เนื้อแน่น และอร่อยดี ถ้ามีโอกาสได้ทานคงติดใจกัน

ร้านที่จะพูดถึงคือ Red Lobster ซึ่งเป็นสาขาจากอเมริกา อยู่ที่ Dubai Mall ครับ เป็นอีกร้านหนึ่งที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่เพราะมี lobster เท่านั้น แต่ที่นั่ง outdoor จะมองเห็นตึก Burj Khalifa และการแสดงแสงสี และน้ำพุเต้นระบำตอนกลางคืนอีกด้วย คนจึงมักจอง outdoor เพื่อทาน lobster และดูการแสดงน้ำพุไปในตัว

ภายในร้านตกแต่งแบบชาวประมง ให้อารณ์เหมือนอยู่ในเรือไม้โบราณ (ขออภัยที่ไม่มีภาพครับ)

ข้ามมาเรื่องอาหารกันเลยละกัน

ที่นี่ใครอยากลอง cocktail แต่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็๋สามารถลองได้  (จริงๆก็น่าจะเรียกว่า Mocktail) เนื่องจากดูไบเป็นประเทศมุสลิม ร้านนี้จึงไม่ใส่แอลกอฮอล์ ในภาพคือพีนาคอลาด้าครับ

Starter เป็น Lobster Bisque ซุปกุ้งแบบบ้านเรา แต่สีจะอ่อนกว่า มีกลิ่นของมะเขือเทศ แต่ไม่เปรี้ยวเท่าบ้านเรา ใส่นมเยอะกว่า แม้รสชาติจะต่างออกไปแต่กินไปทีละคำ กลับรู้สึกอร่อยขึ้น

จานหลักก็ต้อง Lobster ตัวใหญ่มาก ประมาณ 169 AED ด้านบนเป็นชีส เนื้อที่ตัวแน่นดี แต่ที่อร่อยคือตรงก้ามที่มีกลิ่นหอมของควันไฟ  เวลาทานกุ้ง นิยมทานจากหางมาลำตัวครับ จะเป็นการไล่รสจากอ่อนไปเข้มข้น

พาสต้ากุ้งและ lobster มีส่วนหางด้วย เขาจะควักเนื้อไปวางบนหางให้ทาน ดูตั้งใจดี

ข้อมูลเพิ่มเติม www.redlobster.com

หลังจากทานร้านนี้ ก็นึกถึงอีกร้านที่มีความใกล้เคียงกันที่อังกฤษคือ Burger & Lobster ครับ ตอนนี้มีหลายสาขาแล้ว สาขาที่ไปทานคือ Mayfair อยู่ใกล้สถานี Green Park  แนวคิดร้านคือขาย Burger กับ Lobster ครับ เลือกได้ 2 อย่างนี้

ผ้ากันเปื้อน

เป็นแซนวิซ มีซอสมายองเนส เนื้อ lobster แน่นแต่นุ่มมาก

ดูเนื้อใกล้ๆ

อีกจานเป็น lobster ทั้งตัว

อร่อยมากเนื้อหมดก่อน เฟรนซ์ฟราย

ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่ม หรืออยากไปสาขาใหม่ๆ ไปดูที่ www.burgerandlobster.com

หวังว่าคนที่ชอบ lobster คงพอมีไอเดียกันนะครับ ว่าจะไปลอง lobster เนื้อแน่นๆ นุ่มๆ ได้ที่ไหน ทั้งสองร้านถือว่าทำออกมาดีทีเดียวครับ

Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลกที่ Dubai (Review เน้นภาพ)

Burj Khalifa เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ในปัจจุบัน ที่มาของชื่อนั้นมาจากชื่อประธานาธิปดีของ UAE หรือ United of Arab Emirates ครับ

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อหรือเคยเห็นตึกนี้มาบ้าง รีวิวนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตึกนี้ให้ทราบนะครับ เผื่อใครสนใจจะไปเที่ยวกับ  สำหรับการไปดูไบ เดี๋ยวไว้เขียนในรีวิวต่อๆไปครับ

Burj Khalifa สูง 828 เมตร ครับ เป็นตึกที่สูงดูดเด่น เห็นชัดมากหากอยู่ในตัวเมืองของดูไบ  การมาตึกนี้ใช้ Metro ลงสถานี Dubai Mall / Burj Khalifa ครับ เดินเข้ามาทางเชื่อมประมาณ 1-2 กิโลเมตรได้ แต่ติดแอร์จึงไม่เหนื่อย จะเข้ามาตรง Dubai Mall ห้างที่ใหญ่มากๆแห่งหนึ่งในดูไบ  แล้วให้เราลงมาด้านล่าง ไปตรงแถว Food Court จะเจอที่ขึ้นตึก หรือ เดินออกมาภายนอกห้าง เพื่อดูตึก และน้ำพุเต้นระบำ ที่จะมีการแสดงแสงสี ตั้งแต่ 18.00 ทุก 30 นาทีครับ

น้ำพุเต้นรำ

การขึ้นไปตึกที่สูงที่สุดในโลก

ขั้นแรกเลย คือการจองตั๋วครับ มี 2 แบบที่แนะนำคือ ทางเวปไซท์ กับซื้อจากบริษัททัวร์  กับอีกทางที่ไม่แนะนำคือไปซื้อเอาหน้าเคาท์เตอร์เลย

การซื้อแบบของทั้งในเวปและเอเจ้นท์ จะถูกกว่าเกินครึ่งครับ ราคาประมาณ  125 AED ถ้าจองนานหน่อย และจะขึ้นถึง 185 AED ถ้ามาจองใกล้ๆในสัปดาห์นั้น  (ราคาประมาณเอาครับ รายละเอียดแน่ชัด จองในเวปด้านล่างนี้เลย จะมีรอบและราคาแสดงให้เห็น)

http://www.burjkhalifa.ae/en/ObservationDeck/TicketInformation.aspx

เวลาที่ควรขึ้น แนะนำเป็นช่วง 18.30 - 19.00 ครับ จะเห็นพระอาทิตย์ตก เส้นขอบฟ้าที่ไล่สีม่วงฟ้า สวยงามมาก เป็นช่วง Twilight ที่แสงดี และเห็นเส้นขอบฟ้าเลยทีเดียว  เมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้รับเมลล์ยืนยัน ให้เอาไปโชว์กับเคาท์เตอร์ขายตั๋วครับ

ทางเข้าด้านหน้า จะใช้ชื่อว่า AT THE TOP BURJ KHALIFA

ตั๋วที่ได้รับจะเป็นแบบนี้

จองรอบเวลาไหน ก็ควรไปก่อนเวลาซัก 15 นาทีนะครับ ยิ่งใครจองรอบสุดท้าน 21.00 ต้องมา 20.45 ครับ ไม่งั้นพนักงานจะปิดประตู ห้ามขึ้นเลย

ภาพท่านผู้นำและ motto ครับ

Brief ข้อมูลก่อนขึ้นลิฟท์

พอเข้าไปด้านในจะพบ Burj Khalifa โปร่งแสงสีฟ้า ตั้งตระหง่านอยู่ครับ ไว้ฆ่าเวลาถ่ายภาพ ระหว่างรอคิวลิฟท์ทยอยขึ้น

จากนั่นก็จะผ่านทางเลื่อน เป็นภาพการใช้ชีวิตของชาวอาหรับ และ Graphic สวยๆครับ

เอาลายกราฟฟิกที่เกี่ยวข้องกับตึกมาตกแต่งกำแพงได้สวยดีนะ

มีข้อมูลคร่าวๆของตึกครับ

มีผนังให้ถ่ายภาพ เดินไปอีกหน่อยจะถึงลิฟท์ขึ้นตึกครับ

ภายในลิฟท์จะมีแสงสีสวยงาม เพลินๆ ขึ้นแป๊บเดียวก็ถึงชั้น 124 ซึ่งเราจะขึ้นได้สูงสุดเท่านี้

พอออกมาจากลิฟท์ แนะนำให้ออกไปด้านนอกและอยู่ตรงหน้าต่างริมขวา เพื่อรอดูน้ำพุครับ วิวสวยมาก

เมื่อถึงเวลาน้ำพุ รีบไปตรงหน้าต่างที่แนะนำ จะเห็นการแสดงแสงสีตรงน้ำพุครับ ดังภาพด้านล่าง

อย่าลืมแหงนมองดูตึกด้วยนะครับ

มีตึกดุสิตธานีในภาพด้วยครับ

ภาพวิว โดยรอบตึก ภาพที่สวยที่สุดน่าจะมุมที่เห็นตึก The Address ครับ สังเกตจากตรงที่มีช่างภาพ และขาตั้งกล้องยืนกันเยอะ พอดีตอนนั้นคนเยอะเลยไม่ได้ถ่านวิวแถวนั้นมา

ลงมาด้านล่างจะเจอ ภาพผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างตึกนี้ และการตกแต่งแบบเรียบง่ายตามภาพด้านบนครับ

ก็เป็นอันจบรีวิวตึกที่สูงที่สุดในโลก ตึกนี้นะครับ หากใครสนใจ หวังว่าข้อมูลอันนี้จะพอเป็นประโยชน์ครับ