วันนี้มารีวิวโรงแรม Kept Bangsaray ครับ เคป บางเสร่ นั่นเอง โดยส่วนตัวแล้ว ต้องยอมรับว่าเพิ่งเคยได้ยินชื่อ บางเสร่ ครับ โดยชื่อของบางเสร่นี้ เป็นชื่อที่เพี้ยนมาจาก บางเสน่ห์ ซึ่งเป็นที่ๆมีเสน่ห์นั่นเอง เรื่องราวชื่อที่เพี้ยนมาของสถานที่ต่างๆ นั้นก็มีอยู่มากในประเทศไทยว่ามั้ยครับ แล้วทีนี้บางเสร่อยู่ที่ไหนละ บางเสร่อยู่แถวพัทยาและสัตหีบครับ ซึ่งพัทยา ก็เป็นชื่อที่เพี้ยนมาอีกนั่นแหละ เดิมพัทยา มีชื่อเดิมว่า ทัพพระยา เนื่องจากการยกทัพผ่านของพระยาตาก แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนเป็น พัทยา ในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นว่ามี ลมพัทธยา ซึ่งเป็นลมทะเลพัดผ่านในช่วงต้นฤดูฝน บางเสร่จึงเป็นที่ท่องเที่ยวที่เริ่มมีโรงแรมหลายแห่งเปิดให้บริการกันมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเงียบสงบ Hideaway นิดๆ โดยที่ไม่ต้องขับรถไกลจากกรุงเทพมากนักครับ
ด้านหน้าโรงแรมจะเห็นป้ายโรงแรมบนเป็นส่วนหางเสือเรือเก่าครับ
Story ของการตกแต่ง คือ เนื่องจากบางเสร่เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมงมายาวนาน เป็นแหล่งปลากระทงร่ม ปลาใหญ่อื่นๆ ปลาหมึก และปลาข้าวสารครับ หลายคนคงสงสัยปลากระทง หรือ กระโทงร่มเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามภาพประกอบด้านล่างครับ เป็นปลาหน้าตาคล้ายๆปลาดาบครับ
และด้วยเอกลักษณ์และการเป็นที่รู้จักของการเป็นแหล่งปลากระทงร่มนี่เอง ทำให้โลโก้ของโรงแรมก็มีปลาตัวนี้ร่วมอยู่ด้วย และกราฟฟิคให้อารมณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย
ภาพประกอบจาก By © Citron /, CC BY-SA 3.0, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=14679779
สำหรับที่ตั้งของโรงแรมก็จะอยู่ในเขตทหารและหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งข้อดีของอยู่ในเขตทหารคือปลอดภัย และธรรมชาติได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี หมู่บ้านชาวประมงรอบๆ ก็ทำให้แขกที่พักได้สัมผัสกลิ่นไอและวิถีชาวประมงอีกด้วย ด้วยแนวคิดดังกล่าว เมื่อเข้ามาภายใน บรรยากาศที่สัมผัสได้ ก็จะเป็นเหมือนเราอยู่ใต้ท้องเรือโบราณลำใหญ่ๆ มีอุปกรณ์และของตกแต่งต่างๆ ที่มีกลิ่นไอความเป็นชาวประมงและนักเดินเรือ
มีหมวกประดาน้ำโบราณด้วย
หมากรุกไม้คลาสิค
ที่จับฉลากโบราณแบบหมุนๆ
ของเล่นที่สมัยก่อนน่าจะเคยได้เล่นกัน ที่เอาดาบแทงลงไปในช่องต่างๆของถัง ใครแทงแล้วโจรสลัดกระโดดออกมาก็จะแพ้ครับ เป็นกิจกรรมที่สร้างสัมพันธ์และความสนุกให้กับคนยุคก่อนได้เป็นอย่างดี
หลังจากชมบรรยากาศรอบแล้วๆ ทางโรงแรมก็มี Welcome Drink มาเสิร์ฟ เป็นน้ำขิงผสมน้ำแดงครับ
มีมุมสบายๆหลายจุดให้ได้ผ่อนคลายอิริยาบทกัน พร้อมจินตนาการเล่นๆได้ว่าเราอยู่ภายในเรือลำใหญ่กำลังออกเดินทาง
ใครอยากหาอะไรเล่น โดยที่ไม่ต้องจับโทรศัพท์หรือตัดขาดจากโลกภายนอกแต่เน้นปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทางโรงแรมก็มีโต๊ะพูลและบอลมือให้ได้เล่นกัน
โต๊ะพูลมีอุปกรณ์พร้อมให้แขกเล่นได้
ฟุตบอลมือก็พร้อมให้เล่นได้เช่นกัน
โดยรอบก็มีของตกแต่งที่สื่อถึงทะเล เรือ ชาวประมงครับ
เล่นไปซักพักก็อยากเข้าห้องน้ำแล้ว มาสำรวจห้องน้ำกันครับ สิ่งที่น่าสนุกอย่างหนึ่งเวลาไปตามที่ต่างๆ ก็คือการสำรวจสัญลักษณ์ห้องน้ำชายและหญิง ซึ่งหลายๆแห่งก็ทำสัญลักษณ์สนุกๆไม่น่าเบื่อ ที่นี่ก็เช่นกัน สำหรับสัญลักษณ์ห้องน้ำชายของที่นี่จะเป็นรูปโจรสลัดถือดาบ ในขณะที่ผู้หญิงเป็นนางเงือกน่ารักดี
ประตูห้องน้ำได้อารมณ์เรือดำน้ำ
โทนสีและลักษณะของตกแต่งก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเรือ
เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็มาดูห้องกันครับ ในครั้งนี้พาไปดูห้อง 3 แบบครับ
เริ่มจาก ห้อง Kept Horizon Suite ห้องใหญ่สุดในปัจจุบัน (อนาคตจะมี Type อื่นที่ใหญ่กว่าครับ) พื้นที่ประมาณ 50 กว่าตารางเมตร ข้อดีของห้องนี้คือเป็น Duplex มีชั้นลอยด้านบนเป็นห้องนอน ด้านล่างสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน เพดานสูงทำให้มวลห้องดูกว้างไม่อึดอัด
ป้ายหน้าห้องก็ยังเป็นไม้พาย
ชั้นล่างมีที่นั่งพักผ่อนและทำเป็น Day Bed ได้ ห้องน้ำด้านหลังสามารถเปิดหน้าต่างรับลมได้เช่นกัน เป็น Sexy Window เหมาะกับคู่รัก โทนสีห้องเป็นสีขาวกับทิฟฟานีบลู ดูอ่อนหวานไม่หนักจนเกินไป
ราวทำจากเชือกไอเดียเก๋
ตัวห้องน้ำก็มีข้อดีคือสามารถเข้า 2 คนได้พร้อมกันในกรณีที่เป็นคู่รักครับ คนหนึ่งอาบน้ำได้ อีกคนก็สามารถเข่้าส้วมได้โดยไม่ต้องรอ
ข้างห้องส้วม เป็น Shower Box ฝักบัวกึ่งๆ Rain Shower มีขวดสบู่บรรจุแชมพู คอนดิชั่นเนอร์ และซาวเวอร์เจล ของ PASHA เช่นกันครับ :) เมื่อใส่โลโก้ของโรงแรมแล้วดูสวยมาก
ส่วนที่ล้างหน้ามีน้ำสำหรับแขก 2 ขวด และที่ล้างมือพร้อมผ้าเช็ดมือครับ
มีอ่างอาบน้ำติดกับหน้าต่างที่สามารถเปิดได้ และหากเปิดประตูระเบียงก็จะสามารถรับลมทะเลได้เต็มที่
เดินบันไดวนขึ้นมาด้านบนครับ อาจจะชันนิดหนึ่งซึ่งเป็นของห้องแบบ Duplex เพื่อให้มีพื้นที่สูงสุด
ตรงบันได มีมุมโต๊ะทำงานเล็กๆ เพื่อมีอะไรต้องขีดเขียนเล็กๆน้อยๆครับ
ด้านบนเป็นห้องนอน เตียงนุ่มๆครับ
ทีวีตั้งอยู่มุมด้านซ้าย เนื่องจากเป็นแบบเปิดโล่งไม่มีผนังหรือกำแพงกระจก มีรีโมทวางบนถังบาเรลแบบโบราณ
วิวเมื่อมองจากเตียงไปสู่ภายนอกครับ
มีระเบียงภายนอกให้ไปรับแสงด้วยเช่นกัน
อุปกรณ์ต่างๆที่โรงแรมเตรียมไว้ให้
รองเท้าแตะโลโก้โรงแรม เก๋มาก เป็นลายต่อกันใน 1 คู่
มินิบาร์ กาน้ำร้อน
ผ้าขนหนู ร่ม Beach Bag เสื้อคลุม
สำหรับห้อง Type แรกก็มีประมาณนี้ครับ
ไปดูห้องถัดไปกัน คือ Kept Skyline ครับ
เตียงและ Sofa Bed จะเรียงกันไปเลย
ของตกแต่งก็มีความน่ารักไม่แพ้กัน ในทุกๆห้อง
ส่วนที่แตกต่าง สำหรับห้องนี้คือมีพัดลมเพดานด้วย สำหรับใครอยากรับอากาศบริสุทธิ์
และห้องแบบสุดท้ายที่อยากแชร์ คือ ห้อง Kept Deluxe ตัวห้องจะมีความใกล้เคียงกันกับห้อง Kept Skyline แต่จะได้อ่างจากุซซี่ให้ได้แช่ผ่อนคลายกันครับ
เลือกได้ว่าจะนั่งชมวิวบนเก้าอี้หรือในอ่างครับ
ของตกแต่งยังน่ารักเหมือนเดิม
นั่งพักกันซักครู่ก่อนออกไปริมทะเลครับ
ออกมาด้านริมทะเลครับ ตรงกลางจะมีต้นสะเม็ดขนาดใหญ่ที่มีมาแต่ก่อนสร้าง ซึ่งทางโรงแรมได้เก็บเอาไว้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากครับ
ผ่านลานต้นไม้ไป ก็จะเป็นทางเดินไปสู่ทะเลครับ
มีฝักบัวสำหรับชำระร่างกายด้านนอกด้วย ดูเป็นแนว Jungle นิดๆ
สระนำเป็นแบบ Infinity Pool นะครับ ไร้ขอบ ถ้ามองดีๆจะเหมือนมันเชื่อมไปยังทะเลเลย (ภาพจากทางโรงแรมครับ)
ไปรับลมทะเลกันครับ
หมู่บ้านชาวประมงข้างๆ
มองกลับไปด้านโรงแรม
บริเวณริมทะเลยังอยู่ในขั้นก่อสร้างครับ
อารมณ์ยามพระอาทิตย์ใกล้ตก
ตกเย็นล็อบบี้เปิดไฟสว่างก็สวยไปอีกแบบ
มาถึงด้านอาหารครับ ที่โรงแรมมีห้องอาหาร Kept Marine บริการ มีทั้งส่วน indoor และ outdoor ครับ มื้อแรกทานกันแบบรับลมทะเล
สำหรับจานแรก คือ หมูคลุกฝุ่น หมูคุโรบูตะสับนำไปทอด มีผงขาวๆจากข้าวขั่วในหลอดให้เทใส่เพื่อปรุงรสชาติให้เข้มข้นครับ
พล่าปลา เป็นแซลมอนดิบกับซอสสมุนไพร
ปอเปี๊ยะกุ้งสดกับซอสมะขาม
เครื่องดื่มแนะนำของที่นี่ เป็นคอกเทล "ลมโชย" ว็อดก้า ผสม เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่และมะนาวโซดา
ปลาดิบก็มีให้ทานด้วยเช่น
บางเสร่สลัด จะมีซีฟู้ดใส่ลงไป น้ำสลัดเปรี้ยวซ่า ถือได้ว่าเป็น Signature ของที่นี่เลยครับ
และอีกมื้อก็นั่งข้างในบ้าง
เคบสลัด เป็นสลัดเบาๆที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ มีผักสดและครีมซอสเบาๆ
บีฟเทนเดอร์ลอยด์ แบบสุกปานกลาง เนื้อนุ่มอร่อยครับ
พาสต้าเส้นดำและหอยแมลงภู่ มาในชื่อเท่ๆ "Black Pearl"
มาถึงขนมกันบ้าง ที่แนะนำก็คือ Trio Panna Cotta โดยทั่วไปเราจะเจอพันนาคอตต้าแบบราสเบอร์รี่สีแดงเป็นหลัก แต่ที่นี่ก็มีการนำเสาวรสซึ่งมีความเปรี้ยวไม่แพ้ราสเบอร์รี่มาให้ทานกัน ใครชอบพานาคอตต้าแบบเสาวรสไม่ควรพลาด
ปิดท้ายด้วยไอศครีมช็อคโกแลต ดูเรียบง่ายแต่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยครับ
สำหรับรีวิว Kept Bangsaray ก็มีประมาณนี้ครับ
มาสรุปรายละเอียดโรงแรมกัน โรงแรมอยู่ระหว่างจอมเทียนกับบางเสร่ ไปตามแผนที่ได้เลยครับ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการจองเบอร์ติดต่อ
โรงแรมนี้เหมาะกับใคร : ผู้ที่อยากหนีความวุ่นวาย ทั้งไปคนเดียวและเป็นคู่ ที่ไม่ต้องห่างจากกรุงเทพมากนัก ในระยะทางขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง ในขณะที่ยังสามารถได้รับบริการมีคุณภาพเหมือนโรงแรม 5 ดาวครับ
การติดต่อและแผนที่ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากเวปไซต์ของทางโรงแรม http://keptbangsaray.com/ ได้เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น